แก๊งสี่คน 四人幫1971-1976 ของ การปฏิวัติทางวัฒนธรรม

หลังการเสียชีวิตของหลินเปียว เหมายังมองไม่เห็นผู้สืบทอดอำนาจ จึงได้ย้าย หวางหงเหวิน 王洪文  จากเซี่ยงไฮ้มาปักกิ่งในเดือนกันยายน 1972 และได้เป็นคณะกรรมการกลางของพรรคในอันดับสองรองจากโจวเอินไหล เหมือนหมายมั่นจะให้เป็นผู้สืบทอด ในขณะเดียวกันเติ้งเสี่ยวผิง ก็ได้กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งภายในความช่วยเหลือของโจวเอินไหล จากผลกระทบในการแย่งชิงอำนาจของหลินเปียว ทำให้เหมาไม่อาจที่จะไม่พึ่งพาโจวเอินไหลกับเติ้งเสี่ยวผิง แต่เหมาก็ไม่คิดจะโอนอำนาจให้เติ้ง แต่ถ้าเทียบกำลังอำนาจ “ฝ่ายซ้ายจัด” (Far-left politics) ของฝ่ายตนแล้ว เหมาก็ยังไม่ค่อยชอบ “ฝ่ายซ้ายกลาง(Centre-left politics)ของเติ้ง

กรกฎาคม 1973 เหมาวิพากษ์ว่าทั้งก๊กมินตั๋งกับหลินเปียวล้วนแต่เป็นพวกฝักใฝ่ลัทธิขงจื้อ จากนั้น มกราคม 1974 เจียงชิงพร้อมพวกซึ่งเป็นพวกฝักใฝ่เหมาเจ๋อตงที่แท้จริง ก็เริ่มเคลื่อนไหว “วิพากษ์หลินวิจารณ์ข่ง” โดยมีเป้าหมายอยู่ที่โจวเอินไหล เนื่องจากโจวเป็นคู่แข่งคนสำคัญทางการเมืองหลังจากหลินเปียวเสียชีวิต แต่ความเคลื่อนไหวนี้ก็ไม่ได้รับความสนใจมากนัก

ตุลาคม 1974 โจวเอินไหลป่วยหนักต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ภารกิจทั้งหมด จึงมอบหมายให้เติ้ง ในฐานะรองนายกฯ คนที่ 1 เป็นคนรับผิดชอบแทน ส่งผลทำให้เติ้งริเริ่มใช้นโยบาย “สี่ทันสมัย” ( สี่ทันสมัย คือ ความทันสมัยด้านการเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และด้านการทหาร) ต่อมา กันยายน 1975 เหมาล้มป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีกคน

ใกล้เคียง